1.เดิมทีก่อนจะมีชื่อทีมเป็นแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เคยชื่อเดิมว่า นิวตัน ฮีธ มาก่อน โดยนักเตะเป็นพวกคนงานในเหมือง เนื่องจากเมืองแมนเชสเตอร์ เป็นเมืองที่มีอุตสาหกรรมถ่านหิน
2.สาเหตุที่ทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดกับลิเวอร์พูลกัดกันในเวลาที่ทั้ง 2 ทีมเจอกัน เพราะว่าในสมัยก่อนช่วงที่แมนฯ ยูไนเต็ดสามารถกลับมาได้แชมป์ เป็นช่วงที่ลิเวอร์พูลครองความยิ่งใหญ่อยู่พอดี ทำให้เกิดความหยิ่งในศักดิ์ศรีขึ้น (ผมกับเพื่อนก็เป็น ฮ่าฮ่า) มักมีข้อความเย้อหยั่นกัน เช่นตอนที่แมนยูฯได้แชมป์ลีกสมัยที่ 7 ลิเวอร์พูลจึงแซวว่า ไว้ 18 สมัยค่อยคุยกัน (21 ปีผ่านไป แมนยูได้มา 13 สมัย ลิเวอร์พูลก็ยัง 18 เหมือนเดิมนะครับ 555)
3.ทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มีบุคคลที่มียศท่านเซอร์ (หรือชั้นอัศวินในอังกฤษ) 3 คนคือ
1) เซอร์ แมตต์ บัสบี้ (1907-1994) ผลงานคือ คุมแมนฯยูไนเต็ดเป็นแชมป์ยูโรเปี้ยนคัพ(ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก) ทีมแรกในอังกฤษเมื่อปี 1968 (ทีมแรกในเครือจักรภพคือ กลาสโกว์ เซลติก)
2) เซอร์ บ็อบบี้ ชาร์ลตัน อดีตกองหน้าของทีมชาติอังกฤษ ผู้ที่ทำให้อังกฤษได้แชมป์โลกปี 1966
3) เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ผลงานที่ทำให้ได้เป็นท่านเซอร์คือการคว้าแชมป์ทริปเปิลแชมป์คือ พรีเมียร์ลีก เอฟเอ คัพ และ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก
4. จากข้อ 3 คนที่มีสิทธิ์จะได้เป็นท่านเซอร์คนต่อไป คือ ไรอัน กิ๊กส์นะครับ เพราะว่า กิ๊กส์ ได้รับเครื่องราชอิสริยาภรณ์จนจะถึงขั้นท่านเซอร์แล้ว แต่ผมก็ไม่ค่อยรู้ว่า เครื่องอิสริยาภรณ์ในอังกฤษ ลำดับชั้นอย่างไร
5. สนามโอลด์แทร็ฟฟอร์ดเคยถูกระเบิดในสงครามโลกครั้งที่ 2 จนไม่สามารถใช้งานได้ ทำให้ต้องไปใช้สนาม เมนโร้ด ของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ อริร่วมเมืองแทน
7. ช่วงเหตุการณ์โศกนาฏกรรมเครื่องบินตกที่มิวนิค ทำให้แมนฯยูไนเต็ดเสียนักเตะจากเหตุการณ์นั้นไป 8 คน ทีมที่ให้แมนฯยูไนเต็ดยืมนักเตะลงเล่นแทนคือ ทีม ลิเวอร์พูล แมนเชสเตอร์ ซิตี้และน็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์
8. สาเหตุที่เรียกนัดที่แมนฯยูไนเต็ดพบกับลีดส์ ยูไนเต็ดว่า สงครามกุหลาบ เพราะว่า ในช่วงยุค 1950 ตราสโมสรแมนฯยูไนเต็ด เป็นรูปกุหลาบสีแดง ส่วนของลีดส์ ยูไนเต็ดเป็นรูปดอกกุหลาบสีขาว
9. แมนฯยูไนเต็ด เป็นทีมเดียวที่ได้แชมป์สโมสรโลก หรือ ฟีฟ่า คลับ เวิลด์ คัพในปี 2009
10. คำว่า Theatre of dream หรือ โรงละครแห่งความฝัน ผู้ที่พูดประโยคนี้คือ เซอร์ บ็อบบี้ ชาร์ลตัน เพราะว่าการที่นักเตะ แมนฯยูไนเต็ด ลงเล่นในโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด เหมือนกับนักแสดงที่ลงเล่นละครในโรงละครที่มีผู้ชมจำนวนมากนั่นเอง
11. ทีมแมนยูไนเต็ดมี เสื้อเบอร์ที่เป็นตำนานคือเสื้อหมายเลข 7 ผู้ที่เป็นตำนานหรือนักเตะที่เป็นสุดยอดของแมนฯยูไนเต็ดมีหลายคนเช่น จอร์จ เบสต์ (1946-2005) เอริก คันโตน่า เดวิด เบ็คแฮม คริสเตียโน่ โรนัลโด้ เป็นต้น
12. ชุดเยือนของแมนฯยูไนเต็ด สีเทา ใส่เมื่อปี 1994-95 ทำการใส่เพียง 5 นัดเท่านั้น ซึ่งนัดสุดท้ายใส่เมื่อนัดเจอเซาธ์แฮมป์ตัน โดยใส่เพียงแค่ครึ่งแรกเท่านั้น ซึ่งสกอร์ตามอยู่ 0-3 ก่อนในครึ่งหลัง จะมาใส่ชุดที่ 3 ของทีม นัดนั้น แมนยูไนเต็ด พ่ายไป 3-6
13. เอริก คันโตน่า เคยยัวะแตกในนัดที่เจอ คริสตัล พาเลซ ซึ่งเจอกับแฟนบอลปากหมาของคริสตัล พาเลซ เฮียก็องโต้ จึงกระโดดกังฟูคิก ใส่แฟนบอลคนนั้น ผลคือ คันโตน่าโดนเอฟเอ แบน 8 เดือน
14. เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ได้เกียรตินำชื่อไปตั้งเป็นสแตนด์ด้านทิศเหนือ คือ Sir Alex Ferguson Stand เมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน 2011 ในการคุมทีมครบปีที่ 25 ซึ่งชนะซันเดอร์แลนด์ 1-0
15. เซอร์ แมตต์ บัสบี้ ได้เกียรตินำชื่อไปตั้งเป็นชื่อถนนบริเวณด้านหน้าสนามโอลด์แทร็ฟฟอร์ด ชื่อ Sir Matt Busby way
16. เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ได้รับเกียรติจากแมนฯยูไนเต็ดที่สร้างรูปปั้นอยู่ด้านหน้า Sir Alex Ferguson Stand เมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน 2012
17. รูปปั้นสามทหารเสือของแมนยูในช่วงปี 1968 มีสามคนคือ เซอร์ บ็อบบี้ ชาร์ลตัน จอร์จ เบสต์และเดนนิส ลอว์ ซึ่งหันหน้ามาด้านทางเข้าของโอลด์แทร็ฟฟอร์ดและรูปปัั้นเซอร์ แมตต์ บัสบี้
18. ไรอัน กิ๊กส์ ลงเล่นครั้งแรกเมื่อปี 1991 ซึ่งนักเตะบางคนในยุคปัจจุบัน เช่น วิลเฟรด ซาฮา อัดนัน จานูซาจ ราฟาเอล-ฟาบิโอ ยังไม่เกิดด้วยซ้ำ
19. เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน มีอีก 1 ฉายาคือ แฮร์ไดร์เยอร์ หรือเครื่องเป่าผมมรณะ จะเปิดใช้ในเวลาที่ครึ่งแรก ทีมนั้นเล่นไม่ได้เรื่อง ซึ่งจะสามารถทำให้นักเตะเล่นดีแบบผิดหูผิดตากับครึ่งแรกมาก
20. เกียรติประวัติที่เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน คว้ามาได้ก่อนที่จะประกาศรีไทร์ตัวเอง มี 38 รายการคือ
Premier League (13) FA Cup (5) Carling Cup (4) Uefa Champions League (2) Cup Winner Cup (1) Community Shield (10) Uefa Super Cup (1) Intercontinental Cup (1) Fifa Club World Cup (1)
มีต่อ ตอนที่ 2 ครับ